วันเสาร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

The Hunger Games Mockingjay Part 2 "เมื่อเธอเป็นเพียงแค่..คนที่ถูกชักใย"

The Hunger Games Mockingjay Part 2 (2015)
        ผู้เขียนค่อนข้างอึ้ง กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับบทสรุปแห่ง The Hunger Games สารภาพอีกซักรอบ ว่าไม่ได้เป็นแฟนพันธ์แท้ของหนังเรื่องดังกล่าว ไม่เคยอ่านนวนิยาย The Hunger Games รู้สึกเพียงแต่ว่าบทสรุป Stand และการประชาสัมพันธ์น่าสนใจ ชุดสวยดีครับ  คำถามแรกที่เกิดขึ้นเมื่อดูหนังตั้งแต่ภาคแรกจนถึง Mockingjay Part 1 คือทำไมคนถึงสนใจและชื่นชอบรวมทั้งพูดถึง แคทนิส ซึ่งผู้เขียนรู้สึกว่า ไร้ความเป็นตัวของตัวเองผิดวิสัยตัวเอกและตัวดำเนินเรื่อง สายตาที่ดูหวาดหวั่นไม่มั่นคง กับพฤติกรรมที่เหมือนขาดความเป็นตัวของตัวเอง...แต่พอดูบทสรุปใน Mockingjay Part 2 ทำให้เข้าใจและอยากย้อนกลับไปดูใหม่ตั้งแต่ภาคแรก เพราะเราอาจจะประเมินแค่สิ่งที่มองเห็น จากที่เคยตำหนิในหลาย ๆ ครั้ง ถึงการแสดง (ดูแบบเสพหนัง) เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ เธอเล่นได้เยี่ยมมากครับเพราะ....


ตามประสาคนคิดมากเมื่อเราทำอะไรที่ขัดแย้งกับตัวตน เมื่อต้องตกอยู่ในตำแหน่ง Presenter (Mockingjay) ที่ต้องคอยเดินตามแผนของผู้อยู่เบื้องหลัง ซึ่งหนังทำมาได้ดีขนาดที่คนที่คุณคิดว่าใช่ อาจจะไม่ใช่อย่างที่คุณคิด และคนที่คุณคิดว่าไม่ใช่ ซึ่งบางทีก็อาจจะไม่ใช่ แม้กระทั่งตอนจบที่ว่าจบเพื่อสรุป Mockingjay เองที่ทำเหมือนว่าจะจบลงด้วยดี...แต่เพียงแค่เหมือน แม้ว่าผู้เขียนบทจะยืนยันว่าไม่มีภาคต่อก็ตาม แต่ตามประสาคนคิดมากที่เหมือนกับว่าผู้วางบงการจะได้รับผลกรรมทั้งหมดแล้ว เพียงแค่เห็นรอยยิ้มของผู้คิดเกมส์เท่านั้นเราก็อดคิดไม่ได้ว่า หรือทั้งหมด..เขาตั้งใจให้มันเป็นเช่นนั้น  รวมทั้งผู้ชมเองและ Mockingjay ...และผู้เขียนจะรอดูต่อไป....


ความแสบของหนังเรื่องนี้คือการจิกกัดสื่อ และการใช้สื่อเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง (แล้วคนก็เชื่อ) รวมทั้งเรื่องของการเมืองที่หนักหน่วงถึงขั้นเอาตาย เพื่อผลประโยชน์และชัยชนะสามารถทำได้ทุกอย่าง โดยใช้มวลชนที่ไม่สามารถแยกแยะออกว่าอันไหนคือความจริงรวมทั้งการสร้างวาทะกรรมเพื่อสร้างภาพแห่งความชอบธรรมของตนเอง...อืม Stop! (ในหนังครับ)


Mockingjay..ตัวดื้อ
          พูดถึงความไม่เป็นตัวของตัวเอง และไม่รู้ว่าควรจะตัดสินใจยังไงหรือทำอะไรของ แคทนิส ซึ่งต้องรอคำสั่งจากผู้บงการตลอดตามขนบเด็กใหม่ว่านอนสอนง่ายนั้น กลับเป็นแรงขับเคลื่อนให้เกิดพฤติกรรมต่อต้าน (หรือดิ้อเงียบนั่นเอง) อารมณ์ประมาณอยากทำอะไรถ้ามีโอกาสก็จะทำเลยอย่างใน ภาคสุดท้ายที่มุ่งหน้าสู่ CAPITAL โดยพละการและสร้างการสูญเสียให้กับผู้คนที่เกี่ยวข้อง...รวมทั้ง....พฤติกรรมที่ใคร ๆ ก็อ่านออกนี้ อาจจะอยู่ในสายตาของผู้บงการตั้งแต่ต้นแล้ว และอาจจะสร้างแรงขับเคลื่อน ส่งต่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้วางแผนการทุก ๆ การเคลื่อนไหว...ก็เป็นได้


ดูเหมือนชนะ
         สิ่งที่เกิดขึ้นที่เหมือน แคทนิส ได้เลือกที่จะทำด้วยตัวเอง และยอมรับรับผลกับมัน แล้วเธอก็ชนะ..(?)


ถูกแล้ว?
              เมื่อสิ่งที่เราทำแล้วถูก และส่งผลให้เราเข้าใจว่า เราเหมือนจะชนะ  หากมันถูก และชนะ  เราต้องมีความสุข  แต่หากยังไม่มั่นใจ แม้จะชนะยิ่งเวลาผ่านไปยิ่งเหมือนฝันร้ายที่วนเวียนไม่รู้จบ แสดงว่ามันมีบางอย่างที่ไม่ถูกไม่ควร หรือผู้ชนะจะเป็นแค่หุ่น ให้ผู้ที่บงการตัวจริงวางแผนไว้ตั้งแต่ต้น....  
                

ขอต้อนรับเข้าสู่...

              จริง ๆ มันก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากมายนัก เพราะตั้งแต่เริ่มต้นชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า "ท่านผู้ชมทุกท่าน ยินดีต้อนรับเข้าสู่ The Hunger Games ครั้งที่ 76"
              ...และขอไว้อาลัยแด่ Philip Seymour Hoffman นักแสดงมากฝีมือ..ผู้ล่วงลับ...


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น