ผมเริ่มรู้จักคลองถม ตั้งแต่ตอนเรียน ป. ตรี ในสมัยที่เข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯ ใหม่ ๆ พร้อม ๆ กับคำว่า “ตาดีได้
ตาร้ายเสีย” ผมชอบมาเดินทุกคืนวันเสาร์ เช้าวันอาทิตย์ เพราะมีตลาดกลางคืน
แทบจะทุกเสาร์ สมัยก่อนร้านส่วนมากจะแบกะดิน มีเสน่ห์อย่างประหลาด ส่วนมากจะเดินสัมผัสบรรยากาศมากกว่า
เพราะตาร้ายตลอด…(ฮา) แม้กระทั่งตอนเรียนจบแล้วยังเคยเอาของมาวางขายในซอกมืด
ๆ ซอยข้าง 7-11 ที่มีร้านหนังสือครองซอยนั้นอยู่ เพราะได้เรียนรู้ชีวิตอีกหลายมุม
จากหลายชีวิตแวดล้อม เริ่มแรกก็มากัน 2-3
คน หลัง ๆ เริ่มสนุก มากันร่วม
10 ปัจจุบันความเปลี่ยนแปลงเยอะมาก
จากของแบกะดินเริ่มมีแผงค้ามาครอง เชื้อคลองถมเริ่มขยายวงกว้าง 7 – 11 มีไม่ต่ำกว่า 4
สาขาในย่านเดียว และ KFC ก็มา ช่วงหลังมาเดินเสียเงินค่าจอดรถมากกว่า
เงินซื้อของ
ณ
เดือนกุมภาพันธ์ 2558 เซินเจิ้น
ส่งกองกำลังมายึดตึกโดยรอบไว้หมดแล้ว และเต็มไปด้วย Case มือถือ... Case มือถือ
และ Case มือถือ รวมทั้งอุปกรณ์เกี่ยวกับมือถือ มือถือ และ Power Bank…แม้แต่ร้านหนังสือในซอยข้าง ๆ 7-11 ยังจัดสรรพื้นที่ฝั่งนึงเพื่อขยาย Line Products เป็น
...คำที่ขีดเส้นใต้ พอดีได้คุยกับพี่ที่ขายของริมทางเดิน ที่หน้าตาเสมือนเพิ่งลงเครื่องมาจาก
เซินเจิ้น ที่นั่งขาย Power Bank อยู่ พี่เขาบอกว่า “รับประกัน 1 อาทิตย์
แต่ต้องรีบนำของมาเปลี่ยนนะเพราะเค้าจะปิดคลองถมละ” การรับรู้ของเราคือ
เค้าต้องปิดตั้งแต่สิ้นปี 57ตามข่าว พี่เขาบอกว่าผู้ดูแลผ่อนผันให้ถึงสิ้นเดือนแห่งความรักเท่านั้น
(โดยนโยบายขอคืนพื้นที่คือ งดคลองถมตอนกลางคืนวันเสาร์ ห้ามมิให้ผู้ค้าหาบเร่ตั้งวางแผงค้าบนทางเท้าอย่างเด็ดขาดตลอดทั้งวัน และส่วนที่เป็นร้านค้าในตึกแถวอาคารพาณิชย์จะต้องไม่มีการต่อเติมร้านค้าล้ำเข้ามาในบริเวณทางเท้าอย่างเด็ดขาด )
เราก็จัดไปครับ
แต่ซิ้อ Power Bank ร้านอื่นนะ ดังที่เห็นในรูปภาพด้านบนอะครับ
“ ตายสนิทครับ...ลาก่อนคลองถม”
ยังไม่เข็ดครับวันหลังจะไปเดินคลองเซินเจิ้นแทน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น