วันจันทร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2558

โอม...จงเงย

            หากพูดถึง TAKEHIKO  INOUE คนที่ชอบอ่านการ์ตูนแต่อาจใช้เวลาคิดนิดนึง  แต่ถ้าบอกว่าคนที่เขียนการ์ตูนเรื่อง SLAM DUNK หลายคนอาจนึกออก และล่าสุด VAGABOND หนึ่งในหนังสือการ์ตูนที่ น่าภาคภูมิใจ ภายใต้ลิขสิทธิ์ในประเทศไทย โดย NATION EDUCATION CO., LTD สิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนมักชื่นชมเสมอคือ ทีมแปล ที่ต้องเข้าใจภาษา ความลึกซึ้งของระดับภาษา ประสบการณ์ ความรอบรู้ และการเข้าใจในวิถีชีวิตที่แตกต่าง ที่ส่งเสริมให้ผู้อ่านเข้าถึงตัวละครได้อย่างลึกซึ้ง

            เรื่องราวของซามูไรระดับตำนานของญี่ปุ่น มิยาโมโตะ มุซาชิ อารมณ์ประมาณการพเนจร (vagabond) เพื่อหาคำตอบในชีวิตในวิถีแห่งดาบ แม้ว่าลายเส้นพลิ้วไหวดุจสายน้ำบนกระดาษ แต่ประโยคหนึ่งที่ทำให้ผู้เขียนหยุดพินิจ และมองหนังสือภาพเล่นนี้ว่าไม่ใช่แค่การ์ตูนธรรมดา แม้ในตอนต่อ ๆ มายังไม่มีคำไหนที่สะกิดใจได้เท่ากับคำพูดของ...
ในเล่มที่ 4 ตอนที่ 35 พะวักพะวน ในช่วงที่มุซาชิ กำลังพะวักพะวันภายในจิตใจในหลาย ๆ เรื่อง ซึ่งขณะกำลังเดินทางร่วมกับพระทาคุอัน ผู้เหมือนจะหยั่งถึงจิตใจของ มุซาชิได้ว่ากำลังพะวักพะวนกับเรื่องใดอยู่ จึงชี้แนวทาง...ถามหน่อยเถอะว่าถ้าคนไม่หยุดพินิจให้ถ่องแท้แล้วจะเข้าใจป่ะ  คำตอบคือ พระเอกของเราก็พะวักพะวนไปอีกหลายตอนครับ
สิ่งที่ผู้เขียนสะท้อนมุมคิด สะกิดมุมเล่า คือมุมที่ หากเรามัวแต่พะวักพะวน คิดเรื่องใดเรื่องหนึ่ง หรือดิดหลายเรื่องกลับไปกลับมา ก็เข้าอีหรอบเดียวกัน หรือแม้แต่มุ่งทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างจดจ่อเกินไป ไม่เงยหน้าขึ้นมามองโลก เราก็จะเห็นแค่จอกับเรื่องราวในจอที่เป็นเพียงสิ่งหนึ่งบนโลกรอบตัวเรา เราจะรู้ไหมครับว่าข้างๆ เราเป็นอย่างไร คนข้างเราเป็นใคร ทำอะไร และถ้าสิ่งที่เขากำลังทำ เป็นมุมลบต่อเรา เราจะรู้ปะ เขาบอกให้เรามองให้กว้าง จะมองจากมุมในขยายออกมาก็ได้ หรือมองจากมุมกว้างค่อยๆ โฟกัส แต่ต้องรู้ว่าแต่ละส่วนที่เรามองเห็นทั้งภายนอกและภายใน เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งใดและสัมพันธ์กันอย่างไรใด...โอม...จงเงย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น